ทำไมการจ้างทำเว็บไซต์จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับธุรกิจ
ในยุคดิจิทัล เว็บไซต์ไม่ใช่แค่หน้าตาของธุรกิจ แต่คือ “ทรัพย์สินออนไลน์” ที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ เพิ่มโอกาสในการขาย และเป็นช่องทางสื่อสารกับลูกค้า 24 ชั่วโมง การจ้างทำเว็บไซต์จึงเป็นการลงทุน ไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่าย แต่ก่อนจะเริ่มจ้างบริษัทหรือฟรีแลนซ์มาทำเว็บไซต์ คุณควรรู้ปัจจัยสำคัญบางอย่างเพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ธุรกิจจริง ๆ
กำหนดเป้าหมายของเว็บไซต์ให้ชัดเจนก่อนเริ่ม
สิ่งแรกที่ควรทำคือถามตัวเองว่า “ทำเว็บไซต์ไปเพื่ออะไร” เช่น
- ต้องการเพิ่มยอดขายสินค้าออนไลน์
- ต้องการสร้างความน่าเชื่อถือให้บริษัท
- ต้องการให้ลูกค้าค้นหาข้อมูลบริการได้ง่าย
- ต้องการใช้เป็นช่องทางเก็บข้อมูลลูกค้า หรือรับแบบฟอร์มติดต่อ
เมื่อเป้าหมายชัดเจน การคุยกับผู้รับทำเว็บไซต์ก็ง่ายขึ้น ทั้งในแง่โครงสร้าง ฟังก์ชัน และงบประมาณ ทำให้ไม่หลงทิศหรือออกแบบเว็บไซต์สวยแต่ไม่ตอบโจทย์ธุรกิจ
วางงบประมาณและเข้าใจรูปแบบค่าใช้จ่าย
การทำเว็บไซต์มีค่าใช้จ่ายหลายส่วน ทั้งค่าดีไซน์ ค่าพัฒนาเว็บไซต์ ค่าจดโดเมน ค่าโฮสติ้ง และค่า Maintenance รายปี คุณควรถามผู้รับทำเว็บไซต์ให้ชัดเจนว่า
- ราคาที่เสนอรวมอะไรบ้าง
- มีค่าใช้จ่ายรายปีเพิ่มเติมหรือไม่
- หากต้องการเพิ่มหน้าเว็บหรือฟังก์ชัน คิดค่าบริการอย่างไร
การวางงบประมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้เลือกแพ็กเกจได้ตรงกับขนาดธุรกิจ ไม่จ่ายเกินจำเป็น แต่ก็ไม่ถูกจนกระทบคุณภาพ
เลือกแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีให้เหมาะกับธุรกิจ
เว็บไซต์สามารถพัฒนาได้จากหลายแพลตฟอร์ม เช่น WordPress, Shopify, Laravel, หรือระบบ Custom ตามความต้องการ คุณควรถามผู้รับทำเว็บไซต์ว่า
- ใช้แพลตฟอร์มอะไร
- แก้ไขเนื้อหาหน้าเว็บได้เองหรือไม่
- หากอนาคตอยากเพิ่มระบบสมาชิก หรือขายออนไลน์ จะต่อยอดได้ไหม
การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณไม่ต้องเริ่มใหม่ทุกครั้งเมื่อธุรกิจเติบโต
การออกแบบ UX/UI: ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องใช้งานง่าย
หลายธุรกิจมักโฟกัสที่ “ความสวย” ของเว็บไซต์ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ UX/UI หรือประสบการณ์ใช้งานของผู้เยี่ยมชม เช่น
- เมนูหาง่ายหรือไม่
- ลูกค้ารู้ไหมว่าต้องกดตรงไหนเพื่อติดต่อ
- หน้าเว็บโหลดเร็วหรือเปล่า
เว็บไซต์ที่ดีต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า “ใช้งานง่าย” ตัดสินใจไม่ยาก และพาเขาไปสู่เป้าหมาย เช่น การสั่งซื้อ การแอดไลน์ หรือการโทรติดต่อ ได้อย่างลื่นไหล
ความสำคัญของการทำ SEO ตั้งแต่แรกเริ่ม
หากคุณต้องการให้ลูกค้าค้นหาเว็บไซต์เจอผ่าน Google การทำ SEO เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม คุณควรถามผู้รับทำเว็บไซต์ว่า
- โครงสร้างเว็บไซต์รองรับ SEO หรือไม่
- ช่วยตั้งค่า Title, Meta Description, URL ที่เหมาะสมได้หรือไม่
- มีการวางโครงสร้างบทความหรือหน้าคอนเทนต์เพื่อรองรับการทำ SEO ภายหลังหรือไม่
เว็บไซต์ที่ไม่รองรับ SEO เลย อาจต้องเสียค่าโฆษณาจำนวนมากเพื่อดึงคนเข้าเว็บ ในขณะที่การวางแผน SEO ตั้งแต่แรกจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว
เว็บไซต์ต้องรองรับมือถือ (Responsive) เป็นพื้นฐาน
ปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่เข้าดูเว็บไซต์ผ่านมือถือ หากเว็บไซต์แสดงผลเพี้ยน ตัวหนังสือเล็ก ต้องซูมเข้าออก หรือปุ่มกดเล็กเกินไป ลูกค้ามักปิดเว็บทันที ดังนั้นคุณควรย้ำผู้รับทำเว็บไซต์ว่า
- เว็บไซต์ต้องเป็น Responsive Design
- ทดสอบการใช้งานทั้งบนมือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์
เว็บไซต์ที่ใช้งานได้ดีบนทุกหน้าจอ ไม่เพียงสร้างความประทับใจให้ลูกค้า แต่ยังส่งผลดีต่ออันดับใน Google อีกด้วย
ขอผลงานเก่า (Portfolio) และรีวิวจากลูกค้าเดิม
ก่อนตัดสินใจเลือกผู้รับทำเว็บไซต์ ควรขอดูตัวอย่างผลงานที่ผ่านมา เพื่อประเมินสไตล์การออกแบบ ความน่าเชื่อถือ และความเข้าใจในธุรกิจประเภทต่าง ๆ นอกจากนี้ หากมีรีวิวจากลูกค้าจริง หรือเคสที่เล่าว่าทำเว็บไซต์แล้วช่วยเพิ่มยอดขาย เพิ่มการติดต่อสอบถาม ก็จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
การดูแลหลังบ้านและบริการหลังการขาย
อีกเรื่องที่มักถูกมองข้ามคือ “หลังทำเว็บไซต์เสร็จแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ” คุณควรถามให้ชัดเจนว่า
- มีคู่มือสอนการใช้งานหลังบ้านหรือไม่
- หากเว็บไซต์ล่ม หรือมีปัญหา ติดต่อใคร
- มีค่าบริการดูแลรายเดือน/รายปีหรือไม่ รวมอะไรบ้าง
เว็บไซต์คือระบบที่ต้องดูแลอย่างต่อเนื่อง การมีทีมงานที่คอยช่วยเหลือหลังส่งมอบงานจึงสำคัญมากสำหรับเจ้าของธุรกิจ
สรุป: เตรียมตัวให้พร้อมก่อนจ้างทำเว็บไซต์คือก้าวแรกของความสำเร็จ
การจ้างทำเว็บไซต์สำหรับธุรกิจของคุณ จะง่ายขึ้นและคุ้มค่ามากขึ้น หากเริ่มจากการตั้งคำถามที่ถูกต้อง รู้เป้าหมาย เข้าใจงบประมาณ เลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม และไม่ลืมคิดถึงเรื่อง SEO และการดูแลระยะยาว เมื่อคุณเตรียมตัวดี การทำงานร่วมกับผู้รับทำเว็บไซต์ก็จะลื่นไหล และได้เว็บไซต์ที่ช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างแท้จริง


















064-592-5987
Dragonmo
Dragonmo